สู้ไข้หวัด ด้วยอาหาร
 
 
 
     ช่วงนี้ไข้หวัดใหญ่แพร่ระบาดติดต่อถึงกันได้ง่าย ดังนั้นเราต้องสู้กับโรคโดยการเสริมสร้างภูมิคุ้มกันของร่างกายให้แข็งแรงค่ะ อาหารบางอย่างมีส่วนช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกันของร่างกายและช่วยบรรเทาอาการหวัดได้ มาดูกันว่าเราจะเลือกรับประทานอะไรกันดีค่ะ
       

ผัก ผลไม้
       

       ผักผลไม้หลายชนิดมีวิตามินซี และเบตาแคโรทีน ซึ่งช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกันของร่างกายได้
       
       ผลไม้ที่มีวิตามินซีมาก ได้แก่ ฝรั่งสาลี่ มะขามเทศ มะขามป้อม มะขามหวาน มะละกอแขกดำ พุทรา แอปเปิล สตรอเบอรี และผลไม้ตระกูลส้ม
       
       ความเปรี้ยวไม่ใช่ตัวบอกปริมาณวิตามินซี ยกตัวอย่างเช่น มะนาวเปรี้ยวจี๊ดแต่มีวิตามินซีน้อยกว่าฝรั่ง ผลไม้เปรี้ยวอย่างมะยมก็ไม่ติดอันดับต้นๆ หรืออย่างเช่น มังคุด ก็เป็นผลไม้ที่มีรสเปรี้ยว แต่ไม่มีวิตามินซี
       
       ส้มและผลไม้ตระกูลส้ม เป็นแหล่งวิตามีซีที่คนนิยมมากที่สุด นอกจากจะอุดมไปด้วยวิตามินซีและเบต้าแคโรทีนแล้ว ยังมีแคลเซียม และฟอสฟอรัสอีกด้วย
       
       ส้ม มะนาว เลมอน และส้มโอ นอกจากจะอุดมไปด้วยวิตามินซีแล้ว ส้มและมะนาวยังมีสารไบโอฟลาโวนอยด์ โดยจะมีมากที่เนื้อเยื่อส่วนในและเยื่อบุที่หลายคนมักจะลอกออกเวลารับประทาน
       
       นอกจากนี้ มะนาวยังมีสรรพคุณแก้ไอและขับเสมหะได้อีกด้วย ใช้น้ำคั้นจากมะนาวสด 1 ลูก ผสมกับน้ำผึ้งปริมาณเท่าน้ำมะนาว และเกลืออีกเล็กน้อย คนให้เข้ากัน จิบครั้งละนิดบ่อยๆ
       
       ผลไม้แก้ไอและขับเสมหะอีกอย่างหนึ่งก็คือ มะขามป้อม บางคนอาจจะไม่ค่อยชอบรสเปรี้ยวอมฝาดของมัน แต่ผลมะขามป้อมมีวิตามินซีสูงมาก ใช้เนื้อผลแก่สดครั้งละประมาณ 2-3 ผล นำมาโขลกพอแหลก ผสมเกลือเล็กน้อย อมหรือรับประทาน วันละ 3-4 ครั้ง
       
       ผักไทยหลายชนิดก็มีวิตามินซีสูง หากเทียบกับส้มเขียวหวานที่มีวิตามินซี 42 มิลลิกรัมต่อเนื้อผลไม้ 100 กรัม จะเห็นว่าผักไทยหลายชนิดมีวิตามินซีสูงกว่าส้มเขียวหวาน เช่น ดอกขี้เหล็ก (484) ยอดมะยม (302) ฝักมะรุม (262) ผักหวาน (218) พริกชี้ฟ้าเขียว (204) มะระขี้นก (190) ฟักข้าว (178) คะน้า (147)
       
       หากไม่ค่อยได้รับประทานผักผลไม้ อาจใช้วิตามินซีชนิดเม็ดเสริมได้ แต่ไม่ควรใช้แทน เพราะวิตามินจะดูดซึมได้ดีต้องมีสารธรรมชาติบางชนิดในผลไม้นั้นๆ ช่วยด้วย
       
       หากรู้ตัวว่าร่างกายไม่ค่อยแข็งแรง ติดหวัดง่าย เป็นหวัดบ่อยๆ ควรรับประทานอาหารที่มีวิตามินซีทุกวัน จะช่วยป้องกันการเป็นหวัดได้ เพราะถ้าปล่อยให้เป็นหวัดแล้ว วิตามินซีคงช่วยไม่ทัน
       
       นอกจากวิตามินซีแล้ว งานวิจัยทางการแพทย์หลายชิ้นพบว่า พืชผักที่มีเบตาแคโรทีนสูง ก็ช่วยเพิ่มภูมิต้านทานได้เช่นกัน
       
       เบต้าแคโรทีนพบได้ในผักใบเขียวเข้ม เช่น ผักโขม ตำลึง ใบยอ หรือพืชผักสีเหลืองและสีส้ม เช่น ฟักทอง แครอท มันฝรั่ง รวมถึงผลไม้อย่าง มะละกอ มะม่วงสุก ก็มีเบต้าแคโรทีนสูงเช่นกัน
       
       ส่วนการรับประทานเบตาแคโรทีนในรูปของแคปซูลที่ขายเป็นผลิตภัณฑ์เสริมอาหารราคาแพงนั้น ยังไม่ชัดเจนว่าจะช่วยเพิ่มภูมิต้านทานได้เหมือนกับอาหารสด
       

โยเกิร์ต
       
       มีการศึกษาพบว่า โยเกิร์ตช่วยเพิ่มการทำงานของเซลล์เม็ดเลือดขาว และช่วยเพิ่มการสร้างสารแอนติบอดีบางชนิดได้
       
       การศึกษากับอาสาสมัครทั้งคนหนุ่มและคนสูงอายุ พบว่าการรับประทานโยเกิร์ตทุกวันเป็นเวลา 1 ปี ช่วยลดอาการจากหวัดและภูมิแพ้ ผู้ป่วยหายเร็วขึ้น และร้อยละ 25 เป็นหวัดน้อยลง เมื่อเทียบกับกลุ่มที่ไม่ได้รับประทาน
       
       แนะนำให้เลือกโยเกิร์ตรสธรรมชาติชนิดไขมันต่ำ น้ำตาลน้อย และมีจุลินทรีย์ที่มีประโยชน์ซึ่งยังมีชีวิตอยู่ จะได้ประโยชน์อย่างเต็มที่
       

หอมและกระเทียม
       
       เชื่อกันว่ากระเทียมช่วยบรรเทาอาการหวัดได้เพราะกระเทียมมีสารเคมีที่ออกฤทธิ์ต่อเชื้อแบคทีเรียและไวรัส นอกจากนี้สารบางตัวในกระเทียมยังกระตุ้นการทำงานของเซลล์เม็ดเลือดขาว
       
       แต่ก็มีรายงานทางการแพทย์บางชิ้นที่ระบุว่า กระเทียมให้ผลเพิ่มภูมิต้านทานได้ไม่ชัดเจนนัก ดังนั้นแนะนำให้เลือกรับประทานกระเทียมสดปรุงเป็นอาหาร จะดีกว่าผลิตภัณฑ์กระเทียมราคาแพง
       
       นอกจากช่วยเสริมภูมิต้านทานแล้ว กระเทียมและหัวหอมยังช่วยบรรเทาอาการเจ็บคอ ระคายคอได้อีกด้วย รับประทานอาหารที่มีหอมและกระเทียมเป็นส่วนผสม หรือจะเคี้ยวกระเทียมสดเดี่ยวๆ ก็ยังได้ แต่ต้องระวังว่าถ้ามากเกินไปอาจระคายเคืองกระเพาะอาหารได้
       
       สำหรับหอมหัวใหญ่ จะช่วยบรรเทาอาการไอได้ โดยใช้หอมหัวใหญ่สับ 6 หัวและน้ำผึ้ง 12 ช้อนโต๊ะ ตุ๋นไฟอ่อนๆ 2 ชั่วโมง กรองเอาแต่น้ำ จิบอุ่นๆ
       
       ส่วนหอมแดงนั้นช่วยให้จมูกโล่ง ลองบุบหัวหอมใส่ถ้วยเล็กๆ วางไว้ข้างหมอน จะช่วยบรรเทาอาการคัดจมูกเวลานอนได้
       

ซุปไก่
       
       มีการใช้ซุปไก่บรรเทาหวัดกันมาแต่โบราณ แต่เพิ่งจะมีการศึกษาทางวิทยาศาสตร์พบว่ามันใช้ได้ผลจริง แม้เจือจางซุปไก่ด้วยน้ำ 200 ส่วน มันก็ยังออกฤทธิ์ได้ โดยเฉพาะการบรรเทาอาการคัดจมูกและอาการไอ
       
       ไก่ก็เหมือนอาหารโปรตีนหลายชนิด ซึ่งมีกรดอะมิโนตามธรรมชาติตัวหนึ่งที่ชื่อ ซีสเทอีน มันจะละลายออกมาในน้ำเมื่อต้มน้ำซุปไก่
       
       ซีสเทอีน มีสูตรโครงสร้างทางเคมีคล้ายกับยาตัวหนึ่งชื่อ อะเซทีลซีสเทอีน ซึ่งออกฤทธิ์เหมือนยาขับเสมหะหลายตัวคือ ช่วยให้เสมหะเจือจางและขับออกมาได้ง่ายขึ้น
       
       ซุปไก่นั้นทำไม่ยาก ส่วนผสมก็มี ไก่ หอมหัวใหญ่ มันเทศ แครอท ผักชี เกลือ และพริกไทย วิธีทำก็คือ ตุ๋นไก่ในหม้อโดยใช้ไฟอ่อนๆ ให้น้ำไก่ละลายปนออกมาให้มาก เติมหอมหัวใหญ่ มันเทศ แครอท และผักชี แล้วตุ๋นต่อไปจนผักเปื่อย แต่งรสด้วยเกลือและพริกไทย
       
       ฤทธิ์ของซีสเทอีนนั้นจะอยู่ได้นานเพียงครึ่งชั่วโมง ดังนั้นตักเอาแต่น้ำซุป จิบอุ่นๆ บ่อยๆ ส่วนไก่นั้นตักออกเก็บไว้ทำอาหารอื่นได้อีก
       

อาหารรสเผ็ดร้อน
       
       อาหารที่ช่วยให้จมูกโล่ง หายคัดจมูก ก็คืออาหารรสเผ็ดร้อนที่มีพริกเป็นส่วนประกอบ ไม่ว่าจะเป็น พริกขี้หนู พริกชี้ฟ้า พริกแห้ง รวมไปถึงพริกไทย และสมุนไพรรสเผ็ดร้อนอื่นๆ
       
       เราสามารถกินเผ็ดอย่างเอร็ดอร่อยและหลากหลายในอาหารหลายชนิด ไม่ว่าจะเป็น พริกขี้หนูในต้มยำ พริกชี้ฟ้าในผัดเผ็ด พริกไทยในแกงเลียง พริกแห้งในลาบ หรืออาหารที่มีส่วนผสมของสมุนไพรรสเผ็ดร้อนต่างๆ เช่น ขิง กะเพรา โหระพา เป็นต้น
       

น้ำอุ่นและน้ำสมุนไพร
       
       ควรดื่มน้ำมากๆ เวลาที่เป็นหวัด แต่ไม่ควรดื่มน้ำเย็นซึ่งจะทำให้เจ็บคอและไอมากขึ้น ควรจิบน้ำอุ่นหรือน้ำสมุนไพรอุ่นๆ ตลอดเวลา เช่น น้ำตะไคร้ น้ำกะเพรา น้ำมะตูม น้ำใบเตย น้ำเก๊กฮวย จะช่วยให้ชุ่มคอ บรรเทาอาการไอ และละลายเสมหะ
       
       การจิบน้ำอุ่นบ่อยๆ ร่วมกับการรักษาความสะอาดภายในช่องปาก จะช่วยให้อาการเจ็บคอทุเลาและฟื้นตัวได้เร็วขึ้นด้วย
       
       นอกเหนือจากอาหารต่างๆ ที่ช่วยเสริมสร้างภูมิต้านทานและบรรเทาอาการหวัด อย่าลืมรับประทานอาหารให้ครบทั้ง 5 หมู่ พักผ่อนให้เพียงพอ ออกกำลังกายบ้าง ล้างมือบ่อยๆ ไม่คลุกคลีกับผู้ป่วย เพียงเท่านี้ ก็พอจะสู้กับหวัดได้แล้วค่ะ
 
   
 
ที่มา : ผู้จัดการออนไลน์
ข่าวประจำวันที่ : 10 กรกฎาคม 2552
จำนวนผู้อ่าน : 922 คน  
   
   
   
Untitled Document

   
      Best view 1024 x 768 pixel for Internet Explorer © หน่วยสารสนเทศมะเร็ง  โรงพยาบาลสงขลานครินทร์
    ตำบลคอหงส์ อำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา 90110 โทร 0-7445-1595 โทรสาร 0-7445-1595 
ติชมได้ที่นี่ : pparadee@medicine.psu.ac.th